วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2555

เรื่องย่อ บ่วง ตอน4 ช่อง3


เรื่องย่อบ่วงตอน 1 ละครช่อง 3

เรื่องย่อ บ่วง ตอน6  ละคร ช่อง





ตอนที่ 4

วันนี้ คุณรัมภานัดวรรณศิกาและพัชนีออกมาช็อปปิ้งเพื่อจะได้คลายเครียด ตามที่ศามนหนุนให้ออกจากบ้านมาเปิดหูเปิดตาเต็มที่ หลังจากเดินเหนื่อยแล้วจึงแวะร้านอาหาร ยังไม่ทันไรอนุกูลโผล่มาเห็นรีบมานั่งร่วมวงทันที อนุกูลถามจะไปไหนกันต่อ วรรณศิกาบอกว่า พัชนีจะพาไปวัดแล้วชวนอนุกูลไปทำบุญด้วยกัน

อนุกูลมองพัชนีแล้วใส่ไม่เกรงใจว่า แม่คนนี้เล่นของรึเปล่าเอะอะจะไปวัดท่าเดียว พัชนีตอกกลับผู้จัดการทันควัน ไปวัดไม่ได้ไปฆ่าคนไม่ดีตรงไหน อนุกูลเจอไม้นี้ถือว่าไม่เกรงใจนาย แขวะพัชนีด้วยการชมคุณรัมภาว่าสวยงาม แต่งตัวดีมีราศีด้วยแบรนด์เนม พัชนีแต่งตัวดูไม่ได้เหมือนเอาผ้าม่านมาห่ม หน้าก็ไม่แต่งไม่ล้าง พัชนีฟังแล้วคันมือกับปากยิกๆโต้ว่า เสื้อผ้าเครื่องประดับวัดใจคนไม่ได้

“คุณสนใจแต่คนแต่งตัวดี ระวังจะเจอผู้หญิงกำมะลอพวกนี้หลอกเอาสักวัน”

อนุกูลยักไหล่เหมือนจะบอกว่า ยากสำหรับหนุ่มหล่ออย่างเขา เสไปหยิบแมกกาซีนที่มีรูปม้าคึกโผนสองขาตะกายฟ้าสง่างามชนิดหาดูยาก...จึงชมม้าว่างามแท้ รัมภาถามว่าชอบขี่ม้าหรือ เขาส่ายหัวบอกไม่เคย แต่ไม่รู้ว่าทำไมพอเห็นม้าแล้วชอบมาก สงสัยชาติก่อนเขาจะเป็นคนเลี้ยงม้า...อนุกูลเหมือนกำลังนึกเห็นภาพอดีตอันรางเลือนนั้น...

แต่คนที่จดจำอดีตอันเจ็บปวดชอกช้ำที่มีทั้งรักอันอมตะ ความชอกช้ำจากแรงอาฆาต และการตามจองล้างจองผลาญกันไปทุกชาติ นั่นคืออีแพง มันไม่มีวันลืมแม้จะเหลือแต่วิญญาณในชาตินี้

ooooooo

หลังจากผีอีแพง สั่งให้เดือนแรมไปเอาคุณหลวงหรือศามนมาเป็นผัวให้ได้ เพื่อจะให้ชื่นกลิ่นหรือรัมภาบ้าตาย แล้วจะยิ่งทำให้อบเชยวิญญาณคู่แค้น ช้ำยิ่งกว่าตัวเองถูกกระทำเสียอีก...เมื่อทวดอบเชยได้รับรู้การสั่งการด้วยเวทมนตร์ของอีแพง ได้แต่ร้องสั่งอีแพง ทั้งๆที่ไม่มีอำนาจไปยุ่งมนต์ดำของอีแพงที่ครอบบ้านเล็กไว้หมดแล้ว

“อย่านะ...อย่ายุ่งหลานข้า อีผีบ้าแพง เอ็งเคยทำลายชีวิตลูกหลานข้ามาแล้ว เอ็งจะมาทำอีกไม่ได้...ไม่ได้”

ผีอีแพงได้ยินเสียงอบเชยร่ำร้องมาจากบ้านใหญ่ได้แต่หัวร่อร่า...หัวร่ออย่างผู้ชนะ ให้สาสมกับอดีตที่อบเชยเคยทำทารุณมันมา...ภาพในอดีตกระจ่างชัดแม้มันจะฝังลึกในวิญญาณมันมานับร้อยปีก็ตาม...

ภาพอดีตนั้น ผีอีแพงเห็นภาพนายกล้าหรือทหารกล้าหน้าห้องคุณหลวง บ่าวผู้จงรักภักดี...และยังเป็นคนเลี้ยงม้ามีผู้ช่วยอีกคน ทั้งสองกำลังเอาม้าเข้าคอกพูดถึงคุณหลวงที่เพิ่งแต่งงานใหม่ว่า ป่านนี้คงหลับคาเรือนหอไม่ยอมตื่น

แต่คุณหลวงภักดีฯตื่นแล้ว แม้จะสายไป จึงรีบไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ พอเห็นมีผ้ายื่นมารีบขอบใจแม่ชื่นกลิ่น หลังเช็ดหน้าแล้วยื่นคืนจึงเห็นเป็นอีแพงเป็นคนเอามาให้ มันอรุณสวัสดิ์ท่านเสียงหวานฉ่ำ คุณหลวงอุทานตกใจที่อีแพงมาทำหน้าที่แทน มันเข้ามาในห้องนี้ได้ไงแต่ต้องเดินตามมันเข้าห้องหอ อีแพงจัดของคุณหลวงไว้พร้อมถามว่าจะอาบน้ำเลยไหมมันเตรียมชุดไว้ให้แล้ว พอดีชื่นกลิ่นเดินนำหน้าบัวสวรรค์ญาติผู้น้องเข้ามาทักแพงอย่างไม่คิดอะไร เห็นชุดวางไว้พร้อม จึงถามท่านว่าจะใส่ชุดนี้หรือ แพงรู้ดีรีบบอกว่า ทุกวันศุกร์คุณหลวงต้องเข้าวัง แพงเป็นพี่เลี้ยงคุณชื่นต้องแบ่งเบาภาระด้วยการดูแลคุณหลวง บัวสวรรค์ฟังแล้วนิ่วหน้าสงสัยตะหงิดๆในใจในท่าทีแพงกับคุณหลวง...ชื่นกลิ่นรีบขอตัวเข้าครัว

เวลาทานอาหาร แพงเอาใจคุณหลวงคนเดียว ถามตลอดว่ารสเปรี้ยวหวานมันเค็ม หรือพอดีไหม บัวสวรรค์หมั่นไส้เตือนแพงว่า พี่ชื่นเป็นคนปรุงอาหาร ควรเป็นคนถามมากกว่า แพงแก้ทันทีว่าเกรงคุณชื่นจะเหนื่อย...จากนั้นตอนจะใส่รองเท้าอีแพงถลามาใส่ให้ท่านก่อนคนอื่น พอจะออกจากบ้านยังรีบเอากระเป๋ามาใส่มือให้...ชื่นกลิ่นกลับยิ้มพอใจ แต่บัวสวรรค์ยิ่งไม่สบายใจหนักขึ้น...

บัวสวรรค์เหมือนจะถ่ายทอดรูปร่างหน้าตามาสู่พัชนี...วันนี้เธอเดินมาทางคอกม้า เห็นนายกล้าผู้เหมือนจะถ่ายทอดตัวเขามาให้อนุกูล คนที่บอกว่าเขาชอบม้า ชะรอยจะเลี้ยงม้าในชาติก่อน เมื่อถูกบัวสวรรค์เจ้านายมาทักทายเขายิ่งนอบน้อมรายงาน บัวชมว่ากล้าเป็นที่รักของทุกคนนับจากคุณหลวงมาเลย กล้าถ่อมตนยืนยันเป็นบ่าวรับใช้ท่านทุกอย่าง...

กล้าตกใจที่เห็นบัวสวรรค์ซุกซนปีนขึ้นหลังม้าขอให้กล้าสอนขี่ม้า เขาร้องห้ามว่าตัวนี้ขี่ไม่ได้ ทันใดม้าร้องยกสองขาหน้าโดดสูงสลัดจอมซนลง กล้าไวรีบเข้ารับเธอไว้ทันแต่พากันลงไปกองกับพื้น...สองสายตาประสานกันนิ่ง เหมือนต้องมนต์ กล้าได้สติรีบประคองเธอขึ้นก้มหน้านิ่งแต่มือยังประคองกัน กล้ารีบขออภัยที่บังอาจถูกต้องเนื้อตัวเจ้านาย บัวขอบคุณกล้าว่าเธอตกใจหล่นลงไปเอง แล้วยังขอให้เขาสอนขี่ม้าให้ กล้าเห็นเธอประจบและสนิทเขาอย่างรวดเร็ว จึงรีบคว้าถังเดินหนีไปรองน้ำ บัวสวรรค์ยังตามตอแย...เธอมีเรื่องขอถาม

“คุณหลวง เคยรู้จักแพงมาก่อนหรือเปล่าคะ” เจอคำถามนี้กล้าถึงผงะ ย้อนว่าถามทำไม? “เห็นเขาสนิทสนมกันดีน่ะค่ะ แพงทำท่าพิกลหลายอย่าง เหมือนเคยสนิทชิดเชื้อกันมาก่อน” เมื่อกล้ายังเงียบเป็นคนแซ่อึ้ง เธอจึงตัด “ช่างเถอะ เอาไว้เย็นๆ แดดร่มจะลงมานะคะ” ว่าแล้วเดินหนี กล้ามองตามหลัง มันเริ่มกังวลเรื่องแพงยิ่งขึ้น

กล้าทนนิ่งไม่ไหวเห็นปลอดคน แพงกำลังรีดผ้าจึงเข้าไปคว้าข้อมือเตือนว่า คุณหลวงไม่ได้บอกใครเรื่องของเอ็ง อย่าประเจิดประเจ้อนัก ไม่งั้นไอ้กล้าเอาเรื่องแน่ คุณหลวงมีเมียแล้ว หน้าที่ดูแลเป็นของเมียคือคุณชื่นกลิ่น ไม่ใช่บ่าวไม่เจียมตัวอย่างอีแพง แพงตาขวางใส่ทำไมต้องเจียม มันก็เป็นลูกเจ้าคุณ ลูกคนแรกเกิดจากเมียบ่าวคนหนึ่งเหมือนกัน

กล้าฟังแล้วตกใจ มันเพิ่งรู้ อีแพงบ่าวลูกเจ้าคุณลำดับเรื่อง มันถูกคุณหญิงเล่นงาน กลัวแย่งสมบัติจึงไล่มันกับแม่ออกจากบ้าน มันกับแม่เกือบอดตาย แล้วย้ำ “อีแพงนี่ต่างหากที่น่าสงสาร” นายกล้านิ่งคิดหนัก...แล้วเกิดความรู้สึกสงสารอีแพงยิ่งนัก ยิ่งมันรำพันว่า มันไร้วาสนาเป็นหมาจนตรอก แต่จงรักภักดีคุณหลวงสุดหัวใจ เพราะท่านเป็นคนเดียวที่ชายตามองมัน...ช่วยชีวิตมัน
“คนอย่างคุณชื่นกลิ่น มีผู้ชายนับร้อยให้เลือก แต่คนต้อยต่ำโดดเดี่ยวอย่างอีแพงทั้งชีวิตมีคุณหลวงคนเดียว จะผิดตรงไหนที่ลมหายใจอีแพงมีไว้ให้คุณหลวงคนเดียวเท่านั้น”

“ลมหายใจมีไว้เพื่อคุณหลวงไม่ผิด” กล้าแม้เห็นใจแพงแต่ต้องเตือน “ไม่ผิดหรอก แต่ลมหายใจมีไว้พรากผัวพรากเมียคนอื่นนี่สิผิด” แพงอุทานเรียกกล้าอย่างน้อยใจ กล้าสอนต่อ “คนอาภัพน่าสงสาร แต่คนนั้นไม่มีสิทธิ์อ้างอาภัพเพื่อทำความชั่ว หยุดการกระทำของเอ็งเสีย ตัดสิ่งชั่วแต่ต้น ก่อนเอ็งจะตกนรกเพราะกรรมนั้น” กล้าจ้องแพงเขม็ง อีแพงแทบทรุดที่ไม่อาจขอความเห็นใจจากใครได้

ooooooo

เรื่องราวย้อนมาสู่ปัจจุบัน ผีอีแพงน้ำตาไหลทุกครั้งที่นึกถึงอดีตแสนขมขื่น...ยิ่งตอนนี้ คุณหลวงขับรถกลับมาบ้านเล็กเดินผ่านผีอีแพงไป มันมองตามสุดแสนเสน่หา “แม้จะตกนรกไปชั่วกัลป์ ถ้ามีเจ้าคุณอยู่อีแพงยอมตกนรกด้วย”...ณ บัดนี้ อีแพงกระหยิ่ม เพราะคุณหลวงเข้าไปในบ้านเล็กจะได้พบเดือนแรมรออยู่แล้ว

คุณหลวงเข้าไปในห้อง ได้ยินเสียงคนอาบน้ำคิดว่าเป็นรัมภา จึงทักทายพลางถอดเสื้อผ้า เห็นประตูห้องน้ำแง้มไว้จึงย่องไปด้วยใจกระหยิ่ม มุดม่านเข้าไปใจสั่นสะท้านเมื่อเห็นร่างเปลือยอะร้าอร่าม จึงรวบมา

กอดอย่างเต็มมือ ปากบอกรัมภาขออาบด้วยคน...สาวเจ้าใส่จริตร้องตกใจหมดเลยคุณพี่ศามน...ศามนได้ยินเสียง หน้าที่กำลังมืดสว่างวาบทันที เพราะนี่คือสาวเซ็กซี่เดือนแรมที่กำลังจะม้วนอายให้เห็น ท่านร้องขอโทษเธอปากสั่นงักๆ รีบเผ่นออกไปทันที...มีหรือเดือนแรมจะไม่ลืมทำผ้าขนหนูให้เรี่ยราดตามออกมา...

ยามนี้รัมภากับสองสาวเลขาและอนุกูล ยังนั่งทานของหวานคุยกันจ้อต่อในร้านพูดถึงการทำบุญ รัมภากำลังจะไปทำบุญที่วัดอุทิศส่วนกุศลให้ทวดอบเชยกัน... โดยที่รัมภาไม่รู้ว่ากามพรานสาวเดือนแรมกำลังจะทำบาป ล่าคุณหลวงผู้สามีที่บ้านเล็กอย่างกระชั้นชิดติดพันนัวเนีย

ooooooo

ทวดอบเชยที่บ้านใหญ่ เหมือนจะรู้ว่าคุณหลวงกำลังจะเข้าไปติดกับสวาทเดือนแรมด้วยเกมสกปรกของผีอีแพง ท่านจะเข้าไปขวางเพื่อลูกสาวก็หมดทางจะเข้าบ้านเล็กได้ จึงได้แต่ประกาศจะสู้กับมันต่อไป...

ขณะเดียวกัน เดือนแรมใช้กำลังภายนอกโชว์ และกำลังภายในเสกสรรท่าทียั่วยวนเท่าไหร่คุณหลวงก็ยังไม่หายใจสั่น นั่งซึมเป็นนกทึดทือ เดือนแรมจึงค่อยๆ ออกตัวว่าอากาศร้อนเห็นห้องน้ำในนี้สะอาดจึงมาใช้  เป็นความผิดของเธอเอง หวังว่าคงไม่โกรธ ศามนที่นั่งนิ่งเพราะภาพเปลือยของเดือนแรมยังติดตา ทั้งกอดสัมผัสร่างเธอเมื่อครู่ยังติดใจไม่หาย ภาพก่อนๆ ในชุดอาบน้ำยังตรึงใจ  เมื่อเดือนแรมจับข้อมือคุณหลวงถึงสะดุ้งไปสิบวาบ เดือนแรมปากบอกว่า ถ้าเขาโกรธจะไม่ทำอีก แต่มือปลาหมึกลูบไล้แขนแมนขึ้นลงไปเรื่อยๆ แล้วฉะอ้อนอ่อนระแน้ถาม

“บอกมาได้เลยค่ะ พี่ศามนพี่คิดยังไงกับเดือน”เดือน-แรมไม่ถามเปล่า ยื่นหน้ามาหายใจรดหน้าศามนที่สั่นเทิ้มด้วยแรงพิศวาสกับเนื้อตัวอันยั่วยวนของเดือนแรม ...นางสิงห์เดือนแรมกำลังจะขย้ำลูกแกะศามนนั้น ...พลันเกิดสิ่งมหัศจรรย์

ทวดอบเชยที่ได้แต่มองไปทางบ้านเล็กอย่างเสีย ใจอยู่นั้น พอรัมภาไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ ทวดอบเชยกลับมีพลังขึ้นมาทันที พลันเสียงดังสนั่นไปทั้งบ้านใหญ่ กระจกแตกกระจุยกระจายหลายบาน นั่นคือพลังบุญให้ยายทวด

คุณหลวงที่กำลังจะชักตาตั้งด้วยแรงพิศวาสถึงกับสะดุ้งผวาไปทันที ร้องถามว่าเสียงอะไร? หัวใจหดไปหลายคืบ ผละเดือนแรมที่อ้าปากค้าง ทั้งสองชีวิตฟื้นคืนสติต่างช่วยกันมองหาว่าเกิดศึกเสือเหนือใต้อันใด?

ขณะที่ทวดอบเชยสำแดงอำนาจ บุญสืบเห็นว่ากระจกแตกจากภายในบ้าน พอนึกถึงผี พ่อแม่ลูกต่างมองตากันแล้วชิงกันวิ่งหนีออกหลังบ้าน...

ส่วนศามนพอรู้ว่ากระจกบ้านใหญ่แตกคิดว่ามีคนมาปาบ้าน วิ่งนำหน้าเดือนแรมมาทันที ทวดอบเชยเห็น คำรามด่านังแพศยา จึงทำกระจกแตกอีกเปรี้ยง เศษกระจกปลิวบาดหน้าเดือนแรมซิบๆ ศามนรีบดึงเข้าไปหลบในบ้าน มองไปทั่วก็ไม่เห็นมีคนร้าย กระจกแตกได้ไง?

แล้วผีร้ายอีกตนก็พรวดพราดเข้ามาในบ้านใหญ่ด่าคุณหญิงอบเชยว่า วันนี้เอ็งกล้าดีจะลองดีกับอีแพงหรือ พลันเสียงสวดเขมรมนต์ดำดังระงมขึ้น ทวดอบเชยไม่ระคายอาคมร้ายของอีแพง ทวดด่าว่าที่นี่คือเรือนใหญ่ ลูกหลานอุทิศกุศลมาให้ วันนี้ถึงทีกูมั่ง...ว่าแล้วสาดไฟร้อนเข้าเผาผีอีแพง มันร้องลั่นเมื่อถูกหมกไหม้ เดือนแรมแว่วเสียงผีแพงร้อง แต่ศามนไม่ได้ยิน...ผีแพงร้องอย่างทรมานจนหายวับไป เหลือแต่เสียงทวดอบเชยหัวเราะในชัยชนะ

ooooooo

ทวดอบเชยมองไปทางเรือนเล็ก คิดว่ายังจะต้องรบรากับอีแพงต่อไปอีกหลายภพชาติ แต่ยังพร่ำสอนสั่งกับลูกหลานว่าจะดูแลพวกเขาเหมือนที่เคยสัญญาไว้ในอดีต...แล้วภาพในอดีตของทวดอบเชยก็แจ่มชัดขึ้นมาทันที

ที่ครัวบ้านใหญ่ในอดีต นวลวางตะกร้าผ้าลง บอกให้น้าพึ่งรีดเองก็แล้วกัน พึ่งโวยไม่ใช่หน้าที่ แค่ทำครัวก็เหนื่อยแทบตาย นวลบอกไม่ใช่งานมันเหมือนกัน อีแพงยังจะมายัดเยียดงานคุณชื่นให้อีก พึ่งบอกมันหน้าที่อีแพง นวลจึงเล่าว่า อีแพงมันจะดูแลคุณหลวง ดูแลนายผู้ชาย ทิ้งงานคุณชื่นให้คนอื่น นวลให้น้าพึ่งซึ่งเป็นแม่อีแพงเอาไปทำก็แล้วกัน

นวลจะเดินหนี เห็นคุณหญิงอบเชยมารีบคารวะ คุณหญิงมาได้ยินหมดแล้วโกรธที่อีแพงจะไปยุ่งคุณหลวง จึงให้นวลเล่ามาทั้งหมดว่าอีแพงกำเริบไม่ยอมทำงานให้คุณชื่นกลิ่น...คุณหญิงโกรธเดินลิ่วๆไปทันที ลูกสาวมาทักก็ยิ้มให้แล้วรีบขอตัวไปจะเอาเรื่องอีแพงให้ได้

ที่เรือนคนใช้ แพงกำลังนั่งพักกินข้าว เจอเท้าเพ็ญบ่าวประจำคุณหญิงถีบกระเด็นทั้งจานทั้งคน สำทับว่าถ้าไม่ทำงานให้คุณหญิง มึงก็ไม่ต้องมากินข้าวท่าน คุณหญิงมายืนมองอย่างสะใจ อีแพงต่อว่าเพ็ญที่ใช้เท้ากับมัน

“ถ้าเอ็งคิดว่าอีเพ็ญทำเกินไป รอคุณหญิงอบเชยก่อน” คุณหญิงสั่งไอ้ชดมาจับตัวอีแพงไว้ บ่าวจับอีแพงนั่ง เพ็ญเอาไม้มา ท่านสั่งให้เฆี่ยน เพ็ญซัดเต็มที่ อีแพงร้องโอดโอย ท่านยังสั่งลงแส้อีกไม่นับ อีแพงร้องสู้ว่าถูกตีไม่ยุติธรรมจะไปฟ้องหลวง คุณหญิงด่ามันว่าไม่ทำงานให้คุณชื่นกลิ่น เลือกทำงานให้คุณหลวงใครๆก็รู้ เอ็งจงใจให้ท่าคุณหลวง อีแพงไม่ยอม บอกมันรู้จักคุณหลวงก่อนคุณชื่น ท่านช่วยชีวิตมันตอนตกน้ำท่านมีพระคุณ แพงผิดหรือที่จะทดแทนพระคุณของท่าน

พึ่งผู้เป็นแม่มากราบขอร้องคุณหญิงว่าพอแล้ว มันจะไม่ทำอีก มันจะไปทำงานให้คุณชื่นเดี๋ยวนี้ ว่าแล้วลากลูกสาวไป แต่คุณหญิงขวางสั่งสอนมันและสำทับต่อ...บ่าวจะเอาผัวนายมาร่วมบ้านเคยชำระมามากแล้ว

“หลวงภักดี มีเมตตาต่ออีแพงเหมือนกัน” อีแพงมันฮึด คุณหญิงถุยใส่เรียกถ้วยน้ำเกลือมา กดหัวอีแพงลงราดน้ำเกลือใส่หลัง มันแสบสุดร้องแทบขาดใจ พึ่งร้องขอคุณหญิงว่าพอแล้ว คุณหญิงหันมากำราบ

“ถ้าอยากให้พอ สั่งลูกมึงแล้วจำไว้ มึงทำกูไม่เท่าไหร่ ถ้าทำลูกกูร้องไห้แม้หยดเดียว พวกมึงตาย”

ตกกลางคืน อีแพงนอนให้แม่ของมันทายาให้ในห้อง กล้าสงสารอีแพงนัก หายามาให้ถามไถ่ด้วยห่วงใย อีแพงกลับหาว่ากล้ามาสมนํ้าหน้า กล้ารีบอธิบายอย่าเข้าใจผิด ทุกครั้งที่เขาห้ามเขาด่ามัน เพื่อเตือนสติเพื่อนมนุษย์ที่น่าสงสารอย่างมันเท่านั้น อีแพงถามกล้าว่า เห็นหรือยังนังคุณหญิงมันก่อกรรมทำเวรกับข้าปางตาย ข้ากับมันต้องเป็นคู่เวรคู่กรรมกันไปยาวนาน กล้าถามว่า มันจะทำยังไง?

“ฮะฮ้า...นํ้าตาคุณชื่น คือความเจ็บปวดของคุณหญิง ฮ่าๆๆ มันตะโกนใส่หน้าข้าว่ายังงั้น” แพงมันคิดเล่นงานคุณชื่นกลิ่น ไม่ใช่คุณหญิงอบเชย...

ooooooo

คุณรัมภาไปข้างนอก ไปทานอาหารกับพวกวรรณศิกา อนุกูลและพัชนี เลยไปทำบุญให้ยายทวดและปล่อยนกปล่อยปลาแล้วกลับมาถึงบ้านรู้เรื่องเหตุการณ์กระจกแตก บาดหน้าเดือนแรมที่บ้านใหญ่ พอถามถึงเดือนแรมมาบ้านเจอกันแล้วทำอะไรกัน ศามน ตกใจสั่นหัวดิกๆ แล้วเปลี่ยนแผนเป็นรุกด้วยการอุ้มรัมภาเข้าห้องนํ้าเพื่ออาบนํ้าด้วยกัน

ขณะที่อาบไปศามนทำตัวเป็นมือปลาหมึกใต้ฝักบัวไป จนรัมภากำลังจะชอบหนวดปลาหมึกอยู่นั้น มองไปเห็นหน้าผีอีแพงลับๆล่อๆในกระจก ทั้งสองมองตามกันไป ไม่เห็นมีใครในกระจก ขณะกอดกันไปอาบกันไป รัมภากลับร้องขึ้นทันทีเมื่อเห็นนํ้าที่ไหลลงมาเป็นสีเลือด ชี้ให้ศามนดู เขาไม่เห็นอะไรได้แต่บ่นอย่างไม่สมอารมณ์หมายว่า วันนี้รัมภาเป็นอะไรไป รัมภาหัวหด สั่นหัวดิกๆบ่นว่า บ้านหลังนี้เหมือนมีคนคอยมองเรา รัมภาทำไม่ได้แน่ มีคนมอง ใครก็ไม่รู้ ว่าแล้วขอแยกตัวเพื่อจะไปนอนห้องลูก

ศามนได้แต่ยืนเซ่อในอาการเซ็ง เสียงคำรามอย่างสะใจดังจากผีอีแพงที่มายืนมองศามนแล้วปลง...ด้วยความคิดว่า คนเราถ้ามีเมียสวยเป็นกุลสตรีน่าภูมิใจ แต่ถ้ามาเกิดเป็นบ้าด้วยนี่สิ...ผีอีแพงทิ้งไว้แค่นั้น...

แผนทำสงครามประสาทของอีแพงเริ่มขึ้นในวันใหม่...มันเริ่มตั้งเป้าไปหารัมภา...ขณะที่วันนี้เดือนแรมมาร่วมโต๊ะอาหารที่บ้านเล็กอีก โดยมีพวกยายคำ นายหล้า และบุญสืบมาเป็นลูกมือตามเคย เดือนแรมรับใช้และเอาใจศามน คนอื่นเธอไม่สนใจทั้งสิ้น

ผีอีแพงเริ่มเข้ามาอาละวาดรัมภาคนเดียว เดือน–แรมมาแปลกตักแกงจืดใส่ชามเล็กส่งให้รัมภา...ขณะรับ เห็นเงาคนผ่านวูบไป รัมภาสะดุ้งทำถ้วยหล่นแกงกระจาย ทุกคนงง เดือนแรมบ่นว่าทำไมมือไม้คุณพี่อ่อนจัง บุญสืบมารินนํ้าให้รัมภาขณะที่เธอบอกอิ่ม ถือแก้วลุกขึ้น หน้าอีแพงผีร้ายโผล่ที่นํ้าในแก้ว รัมภาตกใจแก้วหล่นจากมือแตกกระจายอีก รัมภารีบขอโทษขณะให้บุญสืบมาจัดการ...รัมภาเกิดอาการหวาดผวาจนตัวสั่น รีบหนีออกจากห้องนั้นทันที...ศามนมองตามเมีย ขมวดคิ้วคิดไม่ออก ทำไมรัมภาจึงทำอะไรเลอะๆเทอะๆไปหมด...

ooooooo

หลังจากศามนเห็นภรรยาป้ำเป๋อหวาดระแวงไปหมด และเขาไม่เชื่อเรื่องผี จึงนัดลูกน้องสนิทในบริษัทพารัมภาไปเที่ยวผับ ได้ดื่มกินร้องเพลงฟังเพลง เต้นรำกันให้สุดเหวี่ยงอาจจะช่วยให้อาการดีขึ้น...

ขณะสนุกกันในผับ อนุกูลจะสนุกกว่าเพื่อนแล้วสิ่งที่อดไม่ได้คือการแขวะพัชนี บางทีก็เลยไปหาวรรณศิ–กา จึงถูกตอกกลับเจ็บแสบเป็นระยะ แต่บางทีก็ช่วยกัน

พารัมภาออกไปเต้นรำอย่างสนุกสนาน แล้วยังสอดส่ายสายตาหาสาวสวยรวยเสน่ห์ที่หลงเข้ามา หรือจงใจหลงเข้ามาก็ได้...นั่งลงไม่ทันไรอนุกูลก็เดินเร่ไปหาสาวงามนางหนึ่งท่าทางไฮโซ แต่นั่งดื่มอย่างเหงาๆคนเดียว อนุกูลหนุ่มรูปหล่อทิ้งวงศามนไปทาบแม่นั่นทันที หลายคนในวงได้แต่ส่ายหน้าระอาคนขี้หลี...

หลังจากสนุกกันจนเหนื่อยแล้วก็ได้เวลากลับ อนุกูลเห็นพวกจ่ายเงินลุกขึ้นจึงมาตัดพ้อว่าราตรียังเยาว์ จะทิ้งอิ๊กคิวซังไปไหน รัมภาจะให้พัชนีอยู่กับอนุกูลต่อ อนุกูลร้องว่าพาแม่ชีกลับไปดีกว่า ถูกสองสาวเลขารุมจวกจนอนุกูลรับไม่ทันเผ่นไปหาแม่สาวคนนั้นทันที

ooooooo

เมื่อกลับมาบ้าน ขณะที่ศามนเข้าห้องอาบนํ้า รัมภาเอนพักหลับตาลง...เหมือนมีใครมากระซิบข้างหู...แต่ไม่ได้ยิน...แต่ไม่นาน อีแพงจงใจให้ได้ยินเสียงกิ๊กๆเหมือนแหวนเคาะลูกกรง รัมภาลุกขึ้นเดินไปตามเสียง...

เสียงนั้นเกิดจากภาพผู้หญิงคนหนึ่งผมยุ่งเหยิงถูกขังล่ามโซ่เนื้อตัวเสื้อผ้ามอมแมมเหม่อดังคนบ้า...เสียงมันดังลอยมา มันขอเอาซี่ลูกกรงนี้เป็นเพื่อน มันร้องขอให้เห็นใจจนหมดเสียง ไม่มีใครสนใจมัน โซ่ตรวนล่ามขายิ่งกว่าหมูหมาที่ยิ่งกว่านรก...นานวันเข้าอีแพงทั้งร้องไห้และหัวเราะใกล้บ้าแล้ว มันกรี๊ดดิ้นเร่าๆกับพื้น...เสียงกรี๊ดดังจนรัมภาปิดหู เพราะมันดังมากขึ้นทุกที รัมภาต้องตะโกนสั่ง

“หยุด...หยุดเดี๋ยวนี้...” สิ้นเสียงรัมภา ศามนวิ่งมาจากห้องนํ้า เขย่าตัวเรียกถามว่าเป็นอะไร รัมภามองสามี กลัวจนสะท้านไปทั้งตัว...เธอบอกนอนที่นี่ไม่ได้แล้วจะไปนอนกับลูก รัมภาวิ่งไปทันที เปิดตู้เย็นหยิบยามากินมือสั่นเทา ผีอีแพงมายืนมองอยู่อีกมุม มันนํ้าตาไหลเจ็บปวดกับอดีตเช่นกัน

“เราสามคนผัวเมียมีบ่วงกรรมกันมานานแล้ว เอ็งได้อยู่กินกับคุณหลวง แต่เอ็งจะมีข้าตามจองเวรกรรมไปทุกชาติ

ผีอีแพงย้อนหลังสู่ความเจ็บปวดในอดีตอีกครั้ง... จากวันที่ถูกทำทารุณ อีแพงเริ่มทำดียอมซักเสื้อให้คุณชื่นกลิ่น เวลาอาหารเช้าคุณหลวงถามหานํ้าปลา อีแพงทำเฉย บัวสวรรค์ต้องหยิบให้ แพงกลับไปเอานํ้าส้มคั้นที่คุณชื่นกลิ่นชอบกินมาให้ อบเชยกับเพ็ญเห็นแล้วยิ้มพอใจ ต่างคิดว่าอีแพงเข็ดแล้วเริ่มทำตัวดีกับชื่นกลิ่น...แต่หารู้ไม่ อีแพงแอบชำเลืองมาแสยะยิ้มให้ “ยังหรอก อีแพงไม่ใช่บ่าวโง่ๆ แค่ถูกตีนิดๆแล้วใจเสาะ อีแพงแค่รอเวลาและโอกาสเท่านั้น”

วันนี้ อีแพงเห็นคุณหลวงกับชื่นกลิ่นคลอเคลียกันที่ศาลาพักร้อน...ทั้งยังได้เห็นกล้าสอนให้บัวขี่ม้า ทั้งสองอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข อีแพงยังงึมงำด้วยริษยา

“บรรยากาศหอมหวน ความรัก ความสุขอบอวล... แต่ ธรรมชาติความสุขย่อมอยู่ไม่นาน...จากนี้ไป ความสุขจะมลายหายไปด้วยฝีมืออีแพงคนนี้...ฮ่าๆๆๆ”

ooooooo


ในคืนที่ทุกคนไปชื่นมื่นที่ผับแล้ว พัชนีคนเดียวที่ลืมของไว้จึงรีบจับแท็กซี่มาบอกยามที่กำลังจะปิด ขอเข้าไปเอาของก่อน ส่วนด้านข้างผับที่จอดรถ สาวงามนางนั้นประคองอนุกูลที่เมาแอ๋มาที่รถของเขา ทั้งๆที่ดูแล้วเขาไม่น่าจะขับรถได้ แต่ปากยังจะพาแม่นั่นเข้าม่านรูดตามนิสัย...

แม่สาวคนนั้นปล่อยให้เขานั่งในรถ หันไปพยักหน้าทางมุมมืด จึงเห็นมอเตอร์ไซค์ขับออกมาเทียบข้างรถ หมอนั่นเป็นผัวสาวไฮแต่โซคนนี้เอง มันมาลากคออนุกูลลงจากรถสั่งให้เอาเงินมา ทั้งต่อยอนุกูลลงจุกกับพื้น มันค้นกระเป๋าหาเงิน อนุกูลตั้งท่าได้ส่งหมัดใส่ มันหลบแล้วเตะผ่าหมาก โชะเดียวอนุกูลหัวทิ่มใส่ข้างรถปุใหญ่จนได้เลือด มันจะเอารถไปด้วย อนุกูลเริ่มหายมึนโยนกุญแจรถไปใน
พงหญ้ารก อีสาวบอกผัวว่ามันโยนทิ้งไปแล้ว หมอนั่นหันมาดีดหลังเท้าใส่ท้องทันที อนุกูลลงไปเป็นเครื่องดูดฝุ่นมีชีวิตที่พื้นอีกครั้ง

พัชนีนั่งรถเข้าประตูจะมาจอด แสงไฟหน้ารถทำให้วายร้ายสองผัวเมียรีบขึ้นมอเตอร์ไซค์หนีไปทันที... พัชนีลงจากรถมาดู เห็นทั้งรถและอนุกูลจึงประคองเขาขึ้น แต่ตอบคำซักถามไม่ได้ พัชนีเห็นเลือดทำท่าจะเป็นลม ปล่อยอนุกูลร่วงลงพื้นจนร้องลั่น เธอขอโทษที่เห็นเลือดไม่ได้ เขาจึงค่อยบอกว่าแม่คนนั้นเป็นนางนกต่อมา ปล้นเงินเขา พัชนีมือสั่นจะแจ้งตำรวจด้วยมือถือ อนุกูลเดินเข้าพงหญ้าที่โยนกุญแจรถเข้าไป หลังพัชนีแจ้งตำรวจแล้ว เรียกหาเขาทั้งหยิบไม้มาปัดหญ้าช่วยหากุญแจ อนุกูลกุมหัวเลือดไหลออกมาจากพงหญ้า พัชนีเห็นตกใจนึกว่าผี เอาไม้ฟาดไปที่หัวหนึ่งที ผีปลอมร้องจ๊าก ลงไปนั่งหมดสตีม พอมีแรงร้องด่าพัชนี คิดจะฆ่าเขาอีกคนเรอะ พัชนีสำนึกผิดบอกว่ากลัวเลือด เห็นแล้วต้องกำจัดทิ้งเสมอ ยิ่งตอนนี้เห็นเลือดเขาออกมากกว่าเก่าพัชนีถึงกับล้มตึง คราวนี้เธอลมใส่จริงๆ

ooooooo

คุณหญิงสงสารรัมภา ลูกสาวที่ถูกผีอีแพงเล่นงานจนแทบประสาทกิน พยายามสื่อสารให้รัมภาบอกความจริงเรื่องผีอีแพงตามอาฆาตให้สามีรู้ คุณหญิงแม่เองก็ช่วยไม่ได้ แต่รัมภาก็บอกได้แต่เพียงว่า อยากย้ายไปเรือนใหญ่ ศามนแย้งทันทีว่าที่ไหนก็เหมือนกัน เรือนใหญ่ผ่านเข้าออกเห็นแต่โลงศพ ลูกๆก็รู้สึกไม่ดี

ก่อนจะพูดต่อเดือนแรมก็โผล่มาขัดจังหวะอีก คราวนี้เธอมาในมาดธุรกิจตลาด บอกว่าตลาดคู่แข่งกำลังปรับใหญ่ เธอก็ต้องทำอะไรซักอย่างไม่งั้นแม่ค้าหนีหมด จึงขอเชิญท่านทั้งสองไปดูตลาดกันจะได้แนะนำเธอ รัมภาเบื่อหน้ารีบบอกว่าเธอนัดกับวรรณศิกาไว้ให้สามีไปกับเดือนแรม รัมภาคว้ากระเป๋าไปทันที เดือนแรมยิ้มจนฟันแทบร่วงหมดปาก...

เมื่อรัมภาไปพบวรรณศิกาตามนัด จึงรู้ว่าเมื่อคืนอนุกูลถูกผู้หญิงไฮแต่โซคนนั้นมอมเหล้า หิ้วไปที่รถให้แมงดาปีกทองมาจี้เอามือถือกับเงินไปโดยอัดแถมเล็กน้อย...  ทั้งสองจึงรีบไปเยี่ยม พอถึงห้องในโรงพยาบาลเห็นพัชนีนั่งคอยพยาบาลอยู่แล้ว พัชนีเล่าว่าเธอกลับไปผับด้วยลืมเอกสาร แต่เห็นรถกับคุณอนุกูลโดนเล่นงานจนหัวแตกจึงลงไปช่วย โจรสองคนนั่นรีบพากันหนีไป อนุกูลบอกว่าทีแรกหัวแตกเล็กน้อย แต่แม่คนนี้ซัดอีกโป้งแผลเหวอะ แค้นเขามากจึงอ้างว่าเป็นคนเห็นเลือดไม่ได้

“บอกแล้ว ชมผู้หญิงแต่งสวย เซ็กซี่ว่ามีระดับแล้วเป็นไง ภายนอกพิสูจน์คนไม่ได้หรอกค่ะ” พัชนีหยัน

“ชะชะ...ซํ้าเติมกันรึ มันถึงตาซวยต่างหาก คนแต่งเป็นแม่ชีอย่างหล่อนดีทุกคนเรอะ คนมีเลวมีดีทุกสังคม ชิชะ แค่นี้ทำมาสอน” วรรณศิกาออกรับแทนพัชนี “เถียงสู้ไม่ได้พาลทำเสียงดังกว่า คิดว่าชนะงั้นเรอะ” รัมภาฟังแล้วก็สนุกดี

ooooooo

เดือนแรมพาศามนชมตลาดแล้วมานั่งดื่มน้ำในร้านกาแฟเล็กๆ...พยายามเล่าถึงชีวิตอันน่าสงสารของตัวเองให้ศามนเห็นใจ บอกว่าแม่ตายพ่อทิ้งเดือนไว้กับยายแล้วไปมีเมียใหม่ ยายก็มาตายลงอีก ยายซึ่งเป็นบ่าวรับใช้ในบ้านคุณศามน เดือนไม่จบ ม.3 ก็ต้องออก...

ยายน้อยชาวตลาดมาแอบฟังโพล่งขัดขึ้นว่า  ที่ออกจากโรงเรียนไม่ใช่เพราะจน เพราะหนีตามโชเฟอร์รถสองแถวตั้งแต่นมยังไม่ตั้งเต้า...เดือนแรมแค้น เจี๊ยบร้องบอกอีกคนว่า เจ๊น้อยอ่านละครในไทยรัฐให้เราฟัง... เดือนแรมรอดตัว เล่าถึงถนนตัดผ่านที่ดินที่คุณยายทวดอบเชยยกให้ยายเพ็ญจึงมีราคามากขึ้น แต่เดือนโชคร้าย ในที่สุดสามีของเดือนก็ทิ้งเดือนไปอีก เสียงน้อยดังฟังชัด

“ไม่ทิ้งได้ไง มันเฉดโชเฟอร์สองแถวทิ้ง ขยับฐานะได้แท็กซี่มาแทน...เล่นเอามานอนในบ้าน ผัวไม่กระทืบตายก็บุญแล้ว”

ทั้งสามสาวเล่นแซวกันเองว่า อ่านเบาๆรบกวนคนอื่นเขา...เดือนแรมรู้ว่า พวกนี้หยันชีวิตรักของเธอ...

เดือนแรมจึงเล่าอย่างรวดเร็วว่า เธอแต่งงานใหม่อีกสองครั้ง แต่ละคนไม่ยอมทำมาหากิน คิดแต่จะเกาะเธอ ทนไม่ไหวต้องเลิกมันหมด...เธอจึงอยู่คนเดียวเปลี่ยวอุรามาจนทุกวันนี้...ความรู้ก็ไม่มี

“คุณพี่ศามนขา คุณพี่ต้องช่วยเดือนนะคะ เดือนไม่มีใครแล้วจริงๆ” เดือนแรมบีบน้ำตาสุดรันทด พวกน้อยร้องระงมว่าน่าสงสาร เดือนแรมทนไม่ไหวโยนกระป๋องน้ำแดงใส่กลางวงพวกเจ๊น้อยถึงแตกฮือ ศามนตกใจถามเดือนแรม แม่สาวตลาดแตกรีบบอกว่าคุณเดือนมือลื่น...เดือนแรมคิดว่าขืนอยู่ไปมีเรื่องแน่ จึงชวนศามนกลับโดยไม่ชักช้า

วันรุ่งขึ้น ศามนไปเยี่ยมอนุกูลที่กำลังจะออกจากโรงพยาบาล เล่าเรื่องเจ้าของตลาดผู้น่าสงสารที่ชื่อเดือนแรมให้ฟัง เธอเป็นเจ้าของตลาดที่ไม่มีความรู้ ให้อนุกูลมาช่วยดูแลปรับปรุงซ่อมตลาดให้ จากนั้นจะหานักบัญชีมาช่วย อนุกูลรับปากจะช่วยจัดการให้ แต่ติงว่า ศามนชอบช่วยเหลือคนแบบนี้ ระวังจะมีปัญหา ศามนซักว่าอะไร อนุกูลรีบบอกว่า ก็พูดไปตามเรื่อง...แต่ในใจคิดเป็นห่วงคุณรัมภาต่างหาก

“สงสารรึ” ผีอีแพงพาตัวว่างเปล่ามานั่งกอดศามนฟังอยู่ แล้วเปรยขึ้น “ไม่ว่าชาติปางไหน คุณหลวงก็ยังขี้สงสารคน ความใจดีใจอ่อนนี่เอง ทำให้อีแพงมีโอกาสเข้าถึงจิตใจคุณหลวง”

ผีอีแพงนึกถึงตอนถูกเฆี่ยนหลังแตก ถูกราดน้ำเกลือ มันมีโอกาสถอดเสื้อให้คุณหลวงภักดีดูว่ามันถูกคุณหญิงอบเชยเฆี่ยนหาว่าให้ท่าคุณหลวง อธิบาย

ยังไงก็ไม่ฟัง อีแพงร่ำไห้น่าเวทนา คุณหลวงถึงอึ้งไป

วันรุ่งขึ้น อีแพงมาดักเอาน้ำพริกที่คุณหลวงชอบมาให้แล้วกำชับอย่าบอกใครว่าอีแพงซื้อให้ เดี๋ยวเจ็บตัวอีก คุณหลวงบอกทันทีพร้อมยื่นยาให้บอกมันว่า ท่านเตรียมยามาให้มันทาจะได้ไม่เป็นแผลเป็น อีแพงเป็นปลื้มลืมไม้เรียวอาบน้ำเกลือสนิท มันซึ้งจนน้ำตาร่วงผลอยๆ...

ภาพอดีตเลือนหาย...กลับมาสู่ปัจจุบัน...ผีอีแพง มองศามนกำลังตรวจเอกสารกองใหญ่ที่เดือนแรมหอบมาให้ดู...พวกยายคำกังขาหารือกับลูกผัวว่าสองคนดูอะไรกันตั้งแต่เช้าแล้ว บุญสืบบอกพ่อแม่ว่า เดือนแรมเอาสมุดธนาคาร โฉนดที่ดิน สมุดบัญชีมาให้ศามนดู มันตั้งให้เป็นผู้จัดการตลาด แต่คิดว่ามันจะตั้งให้เป็นผัวมากกว่า แบบนี้คุณท่านศามนตายอย่างเขียด

ooooooo

คืนนี้ขณะที่รัมภานั่งอ่านหนังสือในที่นั่งเล่นหน้าเรือนหลังเล็ก ลูกๆนั่งทำการบ้านอยู่ใกล้ๆ...แล้วรัมภาได้ยินเสียงก่อกวน เคาะซี่กรงแก๊งๆเหมือนเดิมดังมาจากในบ้าน ถามลูกว่าได้ยินอะไรไหม ลูกไม่รู้เรื่อง แม่จึงให้ทำการบ้านต่อ เธอเดินไปในบ้านความ กลัวกลายเป็นความโกรธ

“บ้าชะมัด ฉันจะไม่กลัวแกอีกต่อไปแล้ว” รัมภาเดินตามเสียงที่กลายเป็นลากโซ่...ตามไปทางหนึ่ง ผีอีแพงปรากฏตัวอีกทาง พอหันไปมันหลบวูบ รัมภาหยิบไม้เบสบอลมากระชับกะฟาดให้เละ “วันนี้ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าแกเป็นผีหรือเป็นคน ฉันจะไม่ยอมเป็นบ้าเพราะแกอีก” เดินไปดักที่เสาต้นหนึ่ง คำราม “ฉันไม่กลัวแกอีกแล้ว” กระชับไม้แน่น มีเงาวูบมา รัมภาซัดไม้ใส่ทันที ศามนร้องโอ๊ย...รัมภาเห็นผิดท่า ร้องเรียกสามีแล้วขอโทษเป็นวักเป็นเวร

“คุณเป็นอะไร มาตีผมทำไม” รัมภาปากสั่นตอบไม่ได้ ผีอีแพงยืนหัวร่อร่า ดีที่ไม่มีใครได้ยิน

รัมภาพาศามนไปทำแผลที่โรงพยาบาล ดีที่หมอ

บอกว่ามีแผลนิดหน่อย รัมภาขอโทษสามีด้วยความเสียใจ เธอลงมือไปแล้วจึงยั้งไม่ทัน...กลับมาบ้าน ศามนบ่นอีกว่า หมู่นี้รัมภาระแวงมองซ้ายขวาตลอด เป็นอะไรไป

“ภาเห็นผู้หญิง...ผู้หญิงในเรือนเล็ก ไม่ใช่คุณย่า ไม่ใช่คน...ภาเห็น ได้ยินเสียง โดยเฉพาะในห้องนอนเรา แต่พอภามานอนห้องลูก ทุกอย่างจะเงียบไป”

“รู้ตัวไหม กำลังพูดอะไร...ผมจะไม่พูดเรื่องนี้กับคุณอีก” ศามนสั่นหัวดิกๆ...ไม่ยอมเชื่อแม้แต่น้อย

ศามนพารัมภาไปหาหมอให้ช่วยดูอาการเมีย หลังหมอตรวจสั่งยาให้แล้ว ทั้งสองคนก็มาเถียงกันอีก รัมภายืนยันตามที่เธอพบเห็น ศามนขอร้องอย่าได้เป็นแบบนี้เลย...รัมภาแปลกใจที่ศามนพอพูดถึงบ้านเล็ก เขาจะไม่ยอมรับแม้แต่น้อย...รัมภาเริ่มกินยากล่อมประสาทมากขึ้น ส่วนเดือนแรมก็โทร.มาหาศามนบ่อยและสนิทกันมากขึ้น...

ooooooo

ดึกแล้ว...รัมภากับลูกหลับไปด้วยกันในห้องนอนเด็ก...ผีอีแพงเข้ามาจ้องมองเด็กทั้งสองอย่างอาฆาตแค้น มันคำรามอย่างดุร้าย

“จะให้ทำนังชื่นกลิ่นน่ะหรือ ทุกวันนี้ทะเลาะกับผัวจนแยกห้องกันนอน มันสาสมดีแล้ว แต่ยังไม่สะใจ เด็กสองคนนี่ต่างหากที่ข้าสนใจ”

“ไม่นะ...ไม่” เสียงทวดอบเชยดังลั่นระคนน้ำตา...

“คุณยายทวด...เสียงคุณยายทวด” รัมภาร้องขึ้นเหมือนละเมอ

“ลูกแฝด ลูกแฝดของเอ็ง ได้ยินไหม...ระวังลูกแฝดของเอ็งไว้ให้ดี ข้าจะมาเอาชีวิตลูกแฝดของเอ็ง”

“เสียงใคร...เสียงใคร” รัมภาแผดเสียง ลุกพรวดขึ้น จังก้าไปมาดั่งจงอางหวงไข่ “อย่านะ อย่ายุ่งกับลูกฉัน”

ลูกแฝดทั้งสองงัวเงียขึ้นมา แม่ผวากอดไว้แน่นทั้งสองคน...พึมพำร้องเรียก “ลูกแม่” ไม่ขาดปาก ลูกทั้งสองถามว่า มีอะไรหม่ามี้...หาวนอนแล้วซบหลับไป...

รัมภาตากร้าว พร้อมแลกกันด้วยชีวิตเพื่อปกป้องลูก

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น