วันอังคารที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2555

เรื่องย่อ บ่วง ตอน2 ละครช่อง3



ผีแพงกำลังจูงศามนเข้าไปในบ้านหลังเล็กอย่างว่าง่าย เพราะกำลังต้องมนต์ดำเต็มที่จากวิญญาณแพงที่เคยเป็นเมีย และต้องมาถูกขังในบ้านที่เต็มไปด้วยกรงขัง เพราะอบเชยต้องการขังแพงด้วยคาถา ฐานบอกว่าแพงท้องกับคุณหลวง ก็คือศามนในชาตินี้ แพงจึงถูกล่ามโซ่จนตายในบ้านเล็กนี้ ตายไปพร้อมมนต์ไสยที่ท่องไว้ด้วยความอาฆาตมาดร้ายและมุ่งแก้แค้นทุกชาติไป วิญญาณของแพงถูกขังในบ้านนี้ด้วยผ้ายันต์ติดสะกดไว้จนถึงปัจจุบันนี้

“จำเรือนรัก เรือนเสน่หาหลังนี้ได้ไหม เรือนหลอมรักของคุณหลวงกับอีแพงในอดีต เราเคยสุขกันที่นี่

จำได้ไหมเจ้าคะ” ศามนเหมือนสติละลาย ได้แต่เหม่อลอย อีแพงร่ายยาวรำพันรัก “ชีวิตอีแพงอาภัพนัก ความจนไม่เคยปรานีใคร ตั้งแต่เล็กแต่น้อยก็อดมื้อกินมื้อ...”

แพงแสนช้ำในอดีตตอนเด็กที่บ้านนอก พ่อตาย แม่เจ็บนอนซมในบ้านเก่าๆ แพงยังเด็กต้องหาไม้ขุดเผือกขุดมันมากินกันตาย จนมือได้เลือด ต้องกินด้วยความหิว...แม่ที่นอนป่วยเห็นลูกแล้วร้องไห้ปลอบให้แพงกินประทังหิวไปก่อน แม่ดีขึ้นจะพาไปอยู่ในเมือง

เมื่อแม่อาการป่วยดีขึ้น ก็หอบหิ้วแพงเข้าเมือง ไปกราบหลวงพ่อ ซึ่งเห็นกับตาว่าแพงหิวจนต้องแย่งข้าวหมากิน หลวงพ่อจึงให้แม่ลูกอยู่ แข็งแรงแล้วค่อยจากวัดไป นางพึ่งกราบหลวงพ่อแทบพื้น

วิญญาณอีแพงกลับมามองศามนด้วยความรักอันอมตะในบ้านหลังเล็ก...ระบายอดีตให้ศามนฟังต่อ... “ชีวิตอีแพง อดอยาก กินหัวเผือกมัน เคยกินข้าวหมา ความยากจนสอนอีแพงว่า ด้านได้อายอด ไม่สู้ก็มีแต่ตาย” หลังจากนางพึ่งได้ข้าววัดแข็งแรงพอ จึงพาลูกสาวมากราบอบเชยที่คฤหาสน์หลังใหญ่ จนเจ้าของบ้านคาดไม่ถึง

“อีพึ่ง...” คุณหญิงอบเชยลุกจากเก้าอี้ มีเพ็ญสาวใช้คนสนิทนั่งกับพื้น “นี่เอ็งจริงรึ ไฉนผอมโซนัก”

ยายพึ่งกราบแล้วเล่าเรื่องไอ้เส สามีตายเมื่อโรคห่าระบาด อีพึ่งจนอยู่บ้านนอกไม่ไหว ต้องขอกลับมาพึ่งใบบุญคุณหญิง อย่าขับไล่ไสส่งอีพึ่งกับลูกเลยนะเจ้าคะ

คุณหญิงอบเชยยังโกรธอีพึ่งไม่หาย เพราะอีพึ่งมันสวยจนท่านเจ้าคุณติดพันมัน คุณหญิงจึงต้องหาเรื่องไล่พึ่งกับผัวมันออกจากบ้าน ผัวยายพึ่งกลัวบารมีท่าน จึงปิดปากเรื่องชู้สาวไว้ แต่คุณหญิงยืนกราน

“เอ็งจะกลับมาทำไม เคยลักของข้า ข้าไล่เอ็งออกไปแล้ว คงรับกลับมาไม่ได้อีก”

“แม่ถูกใส่ร้าย” นังเด็กแพงแก่แดดโพล่งขึ้นกลางวง ไม่กลัวเกรงใคร “คุณหญิงไล่แม่ออกจากเรือน เพราะกลัวท่านเจ้าคุณมาติดพันแม่ต่างหาก” คุณหญิงตกใจ เพ็ญโกรธแทนเจ้านายด่าแพงจะตบปาก ว่าแล้วก็ซัดเปรี้ยงที่หน้า พึ่งเองต้องขวางแล้วก็ด่าลูก...แต่อีแพงของขึ้น ลำเลิกเรื่องเจ้าคุณเข้าหาแม่พึ่งทั้งมีเมียแล้ว พอแม่ท้อง คุณหญิงไม่ยอมรับว่าอีแพงคนนี้เป็นลูกคนหนึ่ง จึงไล่แม่ออกจากบ้าน...เพ็ญทนฟังเจ้านายถูกด่าประจานไม่ไหว จะตบอีแพงอีก คุณหญิงจึงร้องห้ามทุกคนให้หยุด...แล้วตัดสินใจ

“อยากมาก็มา ข้าจะให้เอ็งสองแม่ลูกไปอยู่โรงครัว ห้ามโผล่หน้ามาให้ข้าเห็นเด็ดขาด”

จากนั้น คุณหญิงกำชับบ่าวเพ็ญคอยจับตาแม่ลูกไว้ อย่าให้มันพูดเรื่องมันเป็นลูกท่านเจ้าคุณอีกเป็นอันขาด ท่านไม่อยากให้ชื่นกลิ่นลูกสาวสุดที่รักรู้เรื่องนี้ และไม่อยากแบ่งสมบัติให้ใคร ชื่นกลิ่นต้องเป็นลูกคนเดียวของท่านเจ้าคุณ

ส่วนสองแม่ลูก หลังได้ที่อยู่ที่กินแล้ว ก็บ่นว่าลูกสาวไปเอะอะกับคุณหญิง แต่แพงกลับหาว่าแม่หงอ ที่ได้ที่อยู่ที่กินเพราะมันกล้าพูดต่างหาก ใครจะว่ายังไงอีกพึ่งไม่สน มันถือว่าเป็นลูกท่านเจ้าคุณคนหนึ่งแล้วกัน มันเท่ากับคุณชื่นกลิ่นแท้ๆ...อีพึ่งได้แต่ส่ายหน้าในความทะเยอทะยานของอีลูกคนนี้...

ooooooo

ไม่กี่วันต่อมา แพงเดินเล่นในสวน ได้พบชื่นกลิ่น อีแพงอาสาขึ้นเก็บมะม่วงให้ ทั้งสองแนะนำตัวกัน ชื่นกลิ่นชวนเล่นหม้อข้าวหม้อแกง แพงตกลงยินดีรับใช้ แต่ขอให้ชื่นกลิ่นไปเรียนคุณหญิงก่อน

เมื่อลูกชื่นกลิ่นไปบอกคุณหญิงอยากได้อีแพงมาเป็นคนสนิท เพราะแพงฉลาด ปีนต้นไม้ หาไข่มดแดงเก่ง เธอชอบมัน เพ็ญสั่นหน้าไม่เห็นด้วย แต่ชื่นกลิ่นคะยั้น

คะยอขอร้อง คุณหญิงจำต้องยอม อีแพงฟังแล้วยิ้มพอใจ...

จากวันนั้น อีแพงก็แอบเข้าห้องคุณชื่นกลิ่น หยิบเครื่องประดับทองหยองมาสวมใส่ กรีดนิ้วไปมา ทำท่าเจ้านายให้พวกบ่าวมาบีบนวด...แล้วต้องชะงัก เมื่อเจ้าของห้องเข้ามาถามเสียงดุ อีแพงรีบออกตัวว่าไม่ได้ขโมย แต่เอาของมาใส่เล่น รีบถอดคืน ทั้งขอร้องไม่ให้บอกคุณหญิง ไม่งั้นอีแพงหลังลายแน่ อีแพงสบายใจ มองชื่นกลิ่นแล้วงึมงำในใจว่า มันทำดีเพื่ออยู่รอด มันคือลูกท่านเจ้าคุณคนหนึ่งเหมือนกัน ดีเท่าไหร่ไม่แย่งสมบัติของแก?

ooooooo

ช่วงนี้มีงานเทศน์มหาชาติที่วัด แพงกับนวล ลูกสาวบ่าวเพ็ญ พากันมาซื้อของเข้าครัวบ้านใหญ่ ขณะช่วยกันหาบกระบุงใส่ของข้ามสะพานไม้เก่าๆ เด็กๆหลายคนวิ่งเล่นกันสนุก ต้องหลบหลีกแทบชนกัน พอข้ามครึ่งสะพาน เด็กหัวจุกวิ่งมาชนแพง เสียงราวสะพานลั่นเปรี๊ยะ ทุกคนร้องขึ้นด้วยความกลัวแล้วเสียงคนร้องกับเสียงสะพานหักตูม คนหล่นน้ำร้องกันระงม...

จากนั้นผู้คนร้องให้ช่วยสับสน คนกำลังจมน้ำ นวลโชคดีจับขอบสะพานที่ไม่หักไว้ ร้องเรียกอีแพง ทั้งให้คนช่วย อีแพงว่ายน้ำไม่เป็น ผู้คนรีบช่วยพวกลูกท่านหลานเธอก่อน...

คุณหลวงผ่านมา พร้อมชายฉกรรจ์หลายคน รีบวิ่งโดดน้ำลงช่วยกันชุลมุน เห็นอีแพงชูมือ แล้วค่อยจมลงน้ำ คุณหลวงรีบโดดลงไปช่วยงม...แล้วลากแพงขึ้นมาพาเข้าฝั่ง จับแพงนอนคว่ำรีดน้ำตบหลังไปหลายที อีแพงจึงได้สติ รีบพ่นน้ำจากปาก...มันมองคุณหลวงอย่างซาบซึ้ง เมื่อเห็นแพงสบายขึ้นคุณหลวงจึงไปดูแลช่วยคนอื่นๆต่อ สั่งให้เอาเชือกมากั้น ไม่ให้ใครเดินขึ้นสะพานที่เหลืออีก แพงบอกนวลที่วิ่งมาดูแล แพงชี้ไปบอกนวลว่า คุณคนนั้นช่วยชีวิตมัน นวลมองตาม รีบบอก

“เห็นพวกนั้นเรียกว่าคุณหลวง คุณสังกรน่ะ ยังหนุ่มแน่น รูปก็งามมิใช่น้อย”

อีแพงมองตามท่านคุณหลวงอย่างสำนึกในพระคุณ และชื่นชมท่านอย่างลึกซึ้งตรึงใจ

เวลาผ่านไป...ใจของอีแพงยังเกาะติดคุณหลวงอยู่มิรู้วาย...ขณะที่คุณหลวงกำลังเดินทางจะกลับบ้าน...รู้สึกมีใครบางคนเดินตาม พอหันไปดูก็ไม่เห็น เพราะแพงรีบหลบ ก่อนจะแอบเดินตามไป คุณหลวงรู้ว่ามีคนตาม จึงรีบแอบข้างทาง แล้วโผล่มาจ๊ะเอ๋อีแพง มันรีบตอบคำถามท่านว่า ที่มันตามมา เพื่อจะกราบที่ท่านช่วยชีวิตมัน ท่านจึงบอกว่า ชีวิตคนไม่มีใครปล่อยให้คนตายไปต่อหน้า อีแพงชมว่าท่านรูปงาม จิตใจงามยิ่งกว่า ข้าน้อย อีแพงขอจดจำไปตลอดชีวิต...คุณหลวงไม่สนใจ เร่งให้มันไปรับใช้เจ้านายของมันเถอะ อีแพงมองตามหลังท่านไปจนสุดสายตา

“หลวงภักดีบทมาลย์ ท่านจะเป็นเจ้าชีวิตของอีแพงตราบจนวันตาย”

จากอดีตครั้งนั้น...มาจนถึงนาทีที่มันสะกดศามนไว้ด้วยกันในบ้านเล็ก มันยังพร่ำเพ้อกับคุณหลวงว่า ท่านเป็นของมันคนเดียว ไม่ใช่ของอีชื่นกลิ่น...ศามนได้ยิน ทวนคำว่าชื่นกลิ่น...เคยได้ยิน แต่เลือนรางเต็มที ในยามนี้...วิญญาณอีแพงจึงได้แต่เฝ้ารำพันรักต่อคุณหลวงของมันอย่างไม่ยอมหยุด...แต่เมื่อแพงด่าชื่นกลิ่น ชื่อนี้ทำให้ศามนรู้สึกเหมือนจะเคยได้ยินมาก่อน

ภาพเหตุการณ์หนหลังกลับมาอีกครั้ง ศามนถูกเด็กๆรายล้อม เมื่อเขากลับจากทำงานมาถึงบ้าน เด็กๆให้มาเล่นซ่อนหาแล้วบังคับผูกตาศามนให้ไล่จับเด็ก ศามนขัดเด็กไม่ได้ จึงไล่ตามเด็กที่กระจายหนีไปซ่อน ในที่สุดศามนได้ยินเสียงเดิน จึงรีบเข้าจับตัวคนคนหนึ่งไว้ เมื่อคนนั้นดิ้น ร้องโวยวาย เขาจึงยิ่งกอดแน่น ร้องบอกเด็กๆว่าจับได้แล้ว แต่พอเปิดผ้าผูกตาออก นวลวิ่งมาร้องลั่น ศามนเห็นคนที่เขากอดไว้ไม่ใช่พวกเด็กๆ เธอตวาดให้ปล่อย จึงรีบปล่อยทันที...คุณหลวงเห็นสาวชื่นกลิ่นงามนัก ถึงตะลึง

“ขอโทษ...ขอโทษ...ฉันไม่ตั้งใจ...นี่เธอเป็นใครกัน” ชื่นกลิ่นก้มหน้าเขินอาย ไม่ยอมตอบ

เมื่อชื่นกลิ่นและนวล ซึ่งหิ้วปิ่นโตอาหารมาให้มารดาของคุณหลวง แต่หล่นกระจุยไปแล้ว มานั่งต่อหน้าคุณหลวงและแม่ในบ้าน แม่คุณหลวงดุลูกชายว่าทำรุ่มร่ามกับน้องชื่นกลิ่นเป็นที่เสียหาย เห็นจะต้องไปขอโทษคุณหญิงอบเชยเสียแล้ว ชื่นกลิ่นต้องขอให้แล้วกันไป แม่ของคุณหลวงเอ็นดูชื่นกลิ่นมาก จึงเล่าว่าคุณหลวงไปเป็นทหารหัวเมืองหลายปี เพิ่งย้ายมา ชมชื่นกลิ่นว่าทำอาหารฝีมือลือเลื่อง แล้วบ่นที่ปิ่นโตอาหารตกพื้นเลยอดกิน...ชื่นกลิ่นเห็นท่าทีคุณหลวงกรุ้มกริ่มจึงพานวลลากลับ คุณหลวงรีบขอตัวเข้าบ้าน แม่ยิ้มพอใจที่คุณหลวงมีท่าทีชอบชื่นกลิ่น

คุณหลวงหลบไปดักชื่นกลิ่นทางหน้าบ้าน ทักว่า

ที่รีบกลับคงไม่โกรธเขา ชื่นกลิ่นบอกแล้วว่า ไม่ติดใจแล้วรีบไหว้ลา คุณหลวงเจ้าเล่ห์ ชี้ไปข้างๆว่า ระวัง นั่นงู...สาวเจ้าร้องตกใจโดดมาทางคุณหลวง แต่เมื่อบอกว่า มันแค่กิ่งไม้ สาวชื่นกลิ่นตัดพ้อคุณหลวงหลายคำ เขาสูดลมลึกยื่นจมูกไปใกล้ บอกว่ากลิ่นนี้ไม่ใช่เด็ก ทำไมถึงนึกว่าเด็กๆจึงได้ทำรุ่มร่าม สาวเจ้าโต้ว่า เป็นถึงคุณหลวง เล่นกับเด็กๆหลอกเรื่องงู เกิดมาไม่เคยเห็น เขารีบบอกว่าอยู่ป่ามานาน เข้าเมืองมาขอหยอกคนงามด้วยไมตรี อย่า โกรธเลยนะ...พรุ่งนี้ทำแกงอีก พี่จะไปรับถึงบ้านแต่เช้า แม่ของพี่ท่านอยากรับประทานมาก หาไม่เขาคงโดนแม่ เอ็ดไปหลายวัน สาวเจ้าอายม้วนเดินหนี คุณหลวงร้องย้ำว่า พี่จะไปกราบคุณหญิง แม่ของน้องที่บ้านพรุ่งนี้เช้า...

นวล ลูกสาวอีเพ็ญกลับบ้าน พอไปเล่าให้แพงฟังว่า คุณชื่นกลิ่นไปพบหลวงภักดี ลูกชายคุณหญิงเนื่องที่บ้าน คุณหลวงมองคุณชื่นกลิ่นไม่วางตา ตอนกลับยังตามเย้าถึงท่าน้ำ...แพงโกรธแทบตาย...ถูกนวลเยาะว่า หวังจะเอาเขาเป็นผัว กลับจะมาเป็นเมียนายตัวเอง แพงตบนวลเปรี้ยง...อย่ามาโกหกแพง เพราะมันเป็นลูกเจ้าคุณ ไม่ใช่ลูกบ่าวอย่างนวล นวลจึงตบแพงด้วยฝ่ามือ ทั้งสองตบกันอุตลุด พึ่งกับบ่าวทั้งหลายรีบพากันมาห้ามแยกจากกัน

วันรุ่งขึ้น อีแพงผู้ต่ำต้อยได้ยืนมองคุณหลวงมาเรือน คุณหญิงอบเชย อีแพงยืนคร่ำครวญ “คุณหลวงหลงเสน่ห์ อีชื่นกลิ่นจริงๆ อีพี่สาวทรยศ มันเกิดมาเพื่อแย่งทุกอย่างไปจากอีแพง”

จากอดีตย้อนสู่ปัจจุบัน ผีอีแพงยิ้มพอใจ กระซิบบอกศามนว่า คุณหลวงหลงรักอีชื่นกลิ่นไม่นาน เราก็มา ลงเอยที่บ้านเล็กนี้...แล้วดึงศามนไปดูยันต์ สั่งให้ศามนดึงมันออกเสีย อีแพงจะได้อิสระ เราจะได้มาครองคู่กันอีกครั้ง...ศามนจึงดึงยันต์นั้นทิ้งในที่สุด...เสียงฟ้าผ่า เปรี้ยง...พายุฝนกระหน่ำฮือโหม

ooooooo

ในนาทีแห่งความเป็นความตายนั้น อนุกูลขับรถมาอย่างรีบร้อน แล้วจอดลงที่หน้าโรงพยาบาล พัชนีโวยวายว่า นี่ไม่ใช่บ้านคุณศามน อนุกูลไม่ฟัง ร้องเรียกพยาบาลรับคนไข้โรคจิตด้วย เธอขัดขืนสู้เต็มที่ แต่พวกอนุกูลเอาตัวพัชนีเข้าตึกไปจนได้ วรรณศิกาต้องวิ่งตามไป

ขณะที่ลุงช่วงรู้ว่าศามนตกอยู่ใต้อำนาจผีแพงแล้ว ได้แต่ปลง แล้วแต่บุญกรรมของแต่ละคน ทางวิญญาณคุณทวดอบเชยเห็นรัมภาพาลูกทั้งสองหลบพายุฝนเข้ามาในบ้าน บ่นหาสามี ไม่รู้หายไปไหน

“แย่แล้วลูกเอ๋ย ครานี้ต้องเดือดร้อนกันทั่วหน้า แม่ช่วยลูกไม่ได้ ช่วยหลานไม่ได้” เสียงร้องไห้สุดช้ำ

อนุกูลเดินนำพัชนีร้องไห้ออกมาจากห้องหมอ บอกวรรณศิกาว่า หมอบอกพัชนีไม่บ้า พัชนีโวยใส่หน้าอนุกูลว่า บอกแล้วเธอไม่ได้บ้า เธอหวังดีและเป็นห่วงคุณศามน แต่อนุกูลยังรุกว่าพัชนีทำเรื่องยุ่งต้องไล่ออก พัชนียิ่งร้องไห้หนัก ขอให้พี่วรรณช่วยเธอไม่ให้ตกงาน...วรรณศิการีบไปดึงตัวอนุกูลถามเอาเรื่องว่า จะให้พัชนีออกจริงหรือ เขาว่าแกล้งพัชนีเพราะเธอทำให้เขาเสียแฟนไปถึงสองคน แต่เห็นร้องไห้แล้วยังไม่ไล่ออก วรรณศิกาโล่ง ย้อนว่า ชอบแกล้งยังงี้ แอบชอบเธอละสิ อนุกูลปฏิเสธให้วุ่นวายไป...

ooooooo

พายุหมด ฝนหาย รัมภาเดินมาที่หน้าบ้าน จู่ๆตกใจแทบตาย เมื่อศามนโผล่พรวดออกมาเหมือนผีหลอก ต่อว่าที่สามีหายไป เขาตอบทันทีว่า ไปหลบฝนที่บ้านเล็ก ถามถึงทำไมไม่เปิดมือถือ ศามนรีบบอกว่า ไม่รู้หล่นหายไปไหน ตามหาไม่พบ ว่าแล้วเดินหนี เพราะงงเรื่องที่ผ่านมาเหมือนฝันเลือนลางเต็มที รัมภามองตามสามี อยากรู้ไปทำไมบ้านเล็ก?

สิ่งที่ทำให้รัมภาอึดอัด ในพิธีสวดศพคุณทวด แขกมาร่วมงานไม่มากนักตามเคย แต่มีสาวรุ่นใหญ่วัยเดียวกับรัมภาปรากฏตัว เธอคือเดือนแรม คืนนี้มาในมาด ทรงเครื่อง เพชรประดับตัวแพรวพราว เป็นเจ้าแม่เงินกู้ มาทักทายจับมือถือแขนรัมภา จนแปลกใจ แม้คนอื่นๆจะไม่สนใจนัก แต่มีสามสาวชาวตลาดที่มาช่วยงานประจำ เจ๊น้อย เจ้ามือหวยมือไวชอบงุบงิบของใช้เก่าๆในงานลงกระเป๋าเป็นของชำร่วย เจี๊ยบนั้นบ้าแทงหวย แอนอายุน้อย นิยมคุณรัมภา จึงหมั่นไส้เดือนแรมมากเป็นพิเศษ แม้จะรู้ดีว่าเดือนแรมคือเจ้าของตลาดและที่ดินใกล้ๆแถวนี้เกือบสามสิบไร่ เดือนแรมแนะนำความร่ำรวยตัวเองจนรัมภาหูอื้อ...คิดว่า คืนนี้เจอเศรษฐีบ้านนอกเปรี้ยวจี๊ดซะแล้ว...หารู้ไม่ว่า นี่คือลูกสาวนวล ที่ดูเซ็กซี่ แต่เสน่ห์พราวตามรุ่นอีแพงเด๊ะ...

พูดถึงอีแพง...ผีอีแพงมีอิสระจากยันต์ จึงเตรียมอาละวาดที่งานสวดศพคุณทวดศัตรูคู่แค้นแต่ปางก่อน ยิ่งเห็นศามนมานั่งข้างรัมภายิ่งสะใจ เมื่อเห็นเดือนแรมขยิกเข้าไปเบียดศามน ยิ่งชอบใจที่ลูกนวลมาทำร้ายรัมภาได้อีกคน...อีแพงไม่สนใจพัชนีหลานสาวลุงช่วง ที่ตามอนุกูลและวรรณศิกามางานสวดด้วย...รัมภาแนะนำเดือนแรมให้รู้จักศามน เดือนแรมจ้องศามนแทบตากลับด้วยความหลง จึงใส่จริตฟิตไปทั้งตัว แต่ศามนไม่ค่อยสนใจนัก

ooooooo

ขณะที่ทุกคนรอที่ห้องสวดศพ พระยังมาไม่ถึง ...ในห้องโถงเครียดอึดอัด ไฟเพดานเกิดติดๆดับๆ หลายคนเริ่มใจไม่ดี ยิ่งไฟดับพรึ่บลง อนุกูลตั้งสติได้ บอกให้หาเทียนมาจุด ครู่เดียว ต่างช่วยกันจุดเทียน ยิ่งหมาหอนโหยหวน ทุกคนเริ่มหนาว พายุเริ่มพัดแรง เมฆดำบังแสงจันทร์มืดทึม...ผีอีแพงแสดงอำนาจ เปิด ประตูผาง ทุกคนผวากอดกันระงม อีแพงประกาศ คุณหญิงอบเชย ในที่สุดก็ขังข้าไม่ได้ ข้ามาทวงแค้น ทุกชีวิตในบ้านนี้...ทุกคนเห็นแสงสาดเข้าประตูมา


“ผีมา...ผี” รัสตี้ตะโกน ชี้ไป รัมภารีบปิดปากลูก ให้บุญสืบแก้แทนว่ารัสตี้ชอบเพ้อไปเอง แต่ยายแอนชี้ไป บอกว่านั่นเงาทะมึนของเปรตพาดมาเหนือทุกคน ในห้อง เสียงกรี๊ดทั้งๆที่ไม่เห็นผีอีแพง...ศามนไม่เชื่อเรื่องผี บอกทุกคนว่าแค่เงาไม้ รัมภาว่าคงเป็นเพียงลมพัดต้นไม้เป็นเงามากกว่า

ผีอีแพงโกรธจึงสำแดงอำนาจ สั่งแมวดำโดดเข้าไปทำลายของประดับหีบศพ ผู้คนกรี๊ดตกใจผวาหนี อีแพงพุ่งเข้าบีบคอไลล่า เด็กร้องจ้าจับคอตัวเองดิ้นเร่าๆ รัสตี้ร้องบอกน้องเขาถูกผีบีบคอจนลงไปนอนกับพื้น พ่อแม่รีบให้ไลล่าเอามือออก ขณะทุกคนกลัวลนลาน พัชนีนึกได้ รีบถอดสร้อยคอห้อยพระของเธอไปใส่คอไลล่า ปากอธิษฐานให้พระช่วยหนูน้อยด้วย ผีแพงกรีดยาว กระเด็นจากไลล่า รัมภารีบกอดลูกสาวไว้ปลอบไม่ขาดปาก ผีแพงหันไปบีบคอรัสตี้จนดิ้นพรวดๆ พ่อแม่คิดว่าลูกแกล้งทำ พัชนีรู้ว่าจริง ถามหาใครแขวนพระมาบ้าง...

เมื่อไม่มีใครมี รัมภารีบพนมมือมองรูปทวด ได้ยินทวดอบเชยท่องคาถาจะปกป้องลูกหลานทุกภพชาติ รัมภาจึงร้องขอให้ทวดช่วยหลาน...จู่ๆฝาโลงทวดเปิดผางออก...ทุกคนร้องกรี๊ด วิ่งอลหม่าน...เสียงวิญญาณทวดต่อสู้กับอีแพงให้ปล่อยหลานท่าน อีแพงไม่สนผีแก่ คืนนี้จะทำลายล้างให้สิ้น ทั้งสองผีท้ากันไม่มีใครยอมใคร...ผีแพงผละจากรัสตี้ กลายร่างเป็นนุ่งห่มขาว เป็นฤาษีคล้องประคำทรงอิทธิฤทธิ์ล้ำ เพราะอีแพงเคยเรียนวิชาอาคมทรงฤทธิ์มาแล้ว มันร่ายคาถา พ่นน้ำหมากไปเป็นไฟเผาร่างทวดจนร้องหวีดโหยหวนในกองไฟ...แต่ยังยืนหยัดไม่ยอมแพ้...ห้ามไม่ให้ใครมาทำอะไรลูกหลานข้า...ผีแพงฟังแล้วหัวร่อร่าอย่างผู้พิชิต แปลงร่างมาเป็นผีทาสตามเดิม...

ก่อนผีอีแพงจะทำลายทุกอย่างวอดวาย พัชนีวิ่งออกไปต้อนรับพระ 4 รูปที่เพิ่งนั่งรถมาถึง พอเข้ามาในห้อง อีแพงกำลังกลับมาบีบคอรัสตี้ หมายเอาให้ตาย ทวดเร่าร้อนตกอยู่ในกองเพลิงของผีอีแพง พระรู้สภาพจึงเรียงหน้าชูตาลปัตรสวดมนต์ไล่ผีทันที ผีอีแพงเจอพระถึงกับหวีดร้องสุดเสียง หายวับไปทันที ทวดอบเชยเองก็พลอยหายวับไปด้วย...แสงไฟฟ้าเริ่มสว่างวาบไปทั่วบ้าน รัสตี้ปล่อยมือ วิ่งสู่อ้อมกอดของรัมภา...ทุกคนโล่งใจ ต่างจับกลุ่มเม้าท์กันเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งมีคนเชื่อเรื่องผีและไม่เชื่อ ส่วนเรื่องโลงแตกที่พัชนีตั้งคำถาม หลายคนบอกว่าคงบรรจุไม่ดี อุณหภูมิเปลี่ยนเกิดได้ทั้งนั้น

ส่วนเดือนแรมไม่สนใจอะไร เบียดศามน แล้วทำท่าจะเป็นลม จนเขาต้องประคองไปนั่ง ศามนไม่รู้หรอกว่า เธอจ้องเขาเหมือนจะกลืนกินเข้าไปไว้ในอกด้วยแรงเสน่หา

ooooooo

หลังเหตุร้ายเกิดขึ้นในบ้าน ศามนรู้แต่ว่ารัมภาค้นหาพระเพื่อจะมาห้อยคอให้รัสตี้กันผี ศามนรู้สึกว่ารัมภามีอะไรแปลกๆ ตอนนั้นถึงกับไหว้วอนให้คุณทวดช่วยลูกของเธอ แต่ศามนยังไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ ถือว่าไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์...แม้เรื่องพัชนี ศามนไปประชุมงานที่บริษัท ยังให้พัชนีติดต่อหาหมอที่เชี่ยวชาญทางจิตแพทย์มาดูแลลูกแฝดของเขา เพราะวิธีนี้อยู่บนพื้นฐานความจริงมากกว่า

หลังพัชนีออกจากห้องประชุมมาแล้ว วรรณศิกายังแอบได้ยินทั้งสองพูดถึงพัชนี อนุกูลว่ายังไม่ถึงให้ออก เพราะยังทำงานดี แต่ศามนยังคิดว่า เรื่องผีสางเป็นเรื่องงมงาย...วรรณศิกาจึงมาปลอบใจพัชนีว่า อนุกูลไม่มีวันให้พัชนีออกจากงานแน่...แม้ว่ามีครั้งหนึ่งอนุกูลพาพัชนีไปอบรมพนักงานบริษัท เขาตำหนิลูกน้องไม่ไว้หน้า ทั้งอ้างว่าทำงานไม่ได้เรื่อง ผลิตผลพวกคุณตกลงไม่ได้ตามเป้า พัชนีดูในแฟ้มแย้งว่าผลิตผลเท่าเดือนก่อน อนุกูลหน้าแตก...กลับมาคาดโทษวรรณศิกาว่า ให้อบรมพัชนีให้ดีกว่านี้เพราะไปค้านฉีกหน้าเขาต่อหน้าลูกน้อง พัชนีถูกเรียกมาเฉ่ง แล้ววรรณศิกาก็กระซิบบอกพัชนีว่า เธอแอบได้ยินว่า อนุกูลชมพัชนีต่อหน้าศามนด้วย อนุกูลได้ยินเต็มหูว่า...อนุกูลจะแอบปลื้มพัชนีอยู่หรือเปล่า อนุกูลเต้นผางอยากชกหน้าวรรณศิกาให้เละถ้าเป็นผู้ชาย ว่าแล้วเดินหนี วรรณศิกาแก้ว่าไม่ได้บอกว่ารัก แค่ชอบพัชนีเท่านั้น เขาแค้นรีบขอฝากไว้ก่อนจะเดินลิ่วๆไป...พัชนีเองไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้

ooooooo

เดือนแรมให้ดีดี้หอบหิ้วข้าวของและผลไม้มาที่บ้านศามนและรัมภา ขณะพาลูกๆกินกลางวันรัสตี้รีบอิ่ม แม่สั่งให้นั่งลงทานให้หมด ลูกชายบ่นเบื่อ เดือนแรมรีบกดมือถือสั่งพิซซ่ามาสามถาดทันที ส่งมือถือให้ดีดี้บอกที่บ้านที่จะส่งของ เด็กๆร้องเย้ ศามนขอบคุณ เดือนแรมสั่งปอกผลไม้มาอีกทันที

หลังอาหาร เดือนแรมถือวิสาสะเข้านอกออกใน ใส่คำหวาน ผ่านรัมภาไปหาศามนทั้งเล่นหูเล่นตาตลอดรายการ เที่ยวดูเครื่องสำอางของรัมภานานาชนิด ทั้งเสื้อผ้าหลากสไตล์ในห้องส่วนตัว รัมภาสะกดความโกรธไว้เต็มที่

จากนั้นมาเดินกันที่ระเบียงชั้นบน...เดือนแรมมองไปเห็นบ้านหลังเล็ก ศามนบอกว่า บ้านโทรมมากแต่พอให้คนไปตกแต่งได้...เดือนแรมเริ่มถูกผีแพงครอบ สั่งให้บอกเขาตามที่ผีแพงสั่ง เดือนแรมจึงแนะให้ทำทางเข้าด้านหลัง  ควรย้ายไปอยู่บ้านเล็กนั้น ศามนบอกว่าก็คิดอย่างนั้น ทำให้รัมภาถามว่า คิดอย่างนั้นหรือ เธอไม่เห็นด้วย เดือนแรมดุทันทีว่าทำไมไม่เห็นด้วย พอรู้ตัวรีบขอโทษรัมภา ศามนแย้งว่า รัมภาเคยไม่ชอบบ้านใหญ่ แต่รัมภาโต้ทันทีว่า ตอนนี้เธอชอบแล้ว เดือนแรมดุทันทีว่าไร้เหตุผล พอรู้ตัวว่าเกินไปแล้ว จึงรีบขอตัวไปนั่งอีกทาง เตือนตัวเองว่า ไปยุ่งเรื่องพวกเขาทำไม?

ooooooo

เดือนแรมเดินจากบ้านใหญ่ไปยังทางบ้านเล็ก ขณะที่ศามนยืนยันกับรัมภาว่า เพื่อลูกๆเขาจะให้คนถางหญ้าตกแต่งทาสีบ้านเล็ก จะย้ายหรือไม่ย้ายค่อยมาว่ากัน...เมื่อเดือนแรมเดินไปทางสระบัวแล้วจะวกกลับ แต่แล้วกลับวนมาที่เชิงสะพานอีก ขณะยืนงง มีเงาผ่านหลังวูบ คิดว่านังทองดีหรือดีดี้ จึงด่าให้ แล้ว เงาผีแพงยิ่งวนเวียนไปมาถี่ขึ้น เงาผีแพงพุ่งใส่เดือน-แรม พร้อมตะคอกเรียก “อีนวล” เดือนแรมตกใจร้องว่าผี...แล้วมองท้องตัวเอง เมื่อรู้สึกผีเข้ามาอยู่ในท้องขณะช็อกเสียงผีแพงดังขึ้น

“อย่าห่วง ข้าไม่สิงในตัวเอ็ง แต่จะให้รู้ว่าต่อไปนี้ร่างกายและชีวิตของเอ็งจะเป็นของข้า เอ็งต้องช่วยข้า ทำลายชีวิตพวกมัน” สิ้นเสียงผีสั่ง เดือนแรมก็ล้มลงสลบไปทันที

เหตุการณ์เหล่านี้ ทวดอบเชยรู้เห็นตลอด แต่มองรัมภาด้วยความเศร้า ทั้งแนะว่า บ้านเล็กนั้นเต็มไปด้วยเวทมนตร์ อย่าเชื่อคุณหลวง อย่าย้ายเข้าไปอยู่...แต่รัมภาไม่ได้ยินเลย...

บ้านหลังเล็กถูกผีแพงเนรมิตใหม่เหมือนภาพฝัน ดั่งสวรรค์วิมาน...ศามนเดินมาทางริมสระบัว เห็นเดือนแรมสลบอยู่เชิงสะพาน รีบเข้าไปช่วย เดือนแรมหนุนตัก ศามนมองไปที่บ้านหลังเล็ก แล้วทั้งสองเหมือนกำลังกอดก่ายกันในวิมานบ้านเล็กนั้น

เดือนแรมในร่างเปลือยเปล่าเร้าอารมณ์กอด

ศามนไว้ไม่ห่างในบรรยากาศแห่งความรักร้อยพิศวาส ศามนถูกกอดก่าย เย้ายวนกวนอารมณ์ที่ลื่นไหลในกามคุณ ศามนพยายามสั่นหัวหนีอารมณ์เช่นนี้ แต่ผี

อีแพงตอกย้ำ นี่คืออนาคตของท่าน อย่าปฏิเสธ ยังไงต้องเกิดขึ้น ว่าแล้วร่างงามยั่วยวนของผีอีแพงที่แปลงร่างมา ทำให้ศามนต้องเข้ามากอดรัดลูบไล้ตอบสนองความรักและอารมณ์ใคร่ของผีอีแพง...โดยมีร่างยั่วยวนของเดือน–แรมยังคลุกเคล้าอยู่ด้วย...ยามนี้ จึงเป็นบทพิศวาสของหนึ่งชายสองหญิง ที่ผีแพงจงใจจะให้เจ้าคุณลืมนังชื่น– กลิ่นให้ได้

“หวานใดเล่า จะหวานเท่ารสเสน่หา คุณหลวงเจ้าขา อีกไม่นานท่านจะต้องลืมนังชื่นกลิ่น ท่านจะต้องกลับมาหลงใหลอีแพงคนงาม เหมือนเช่นในกาลก่อน...” ว่าแล้วผีอีแพงก็หัวร่อร่าอย่างผู้ชนะ

ศามนเองสั่นหัวไปมา เพราะเริ่มมึนด้วยมนต์ดำของผีอีแพง...แล้วต้องสลบไปในที่สุด...

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น